วันนี้หนูหิ่นขออนุญาตพาคุณข้ามถิ่นไปลองของดีใกล้ศาลเจ้าพ่อเสือ แถวๆ เสาชิงช้ากันบ้างนะค้าา

เจ๊นีของเราเริ่มต้นจากการทำเผือกหิมะกินกันเองในครอบครัว แต่ต่อมาเมื่อแจกจ่ายเพื่อนฝูงก็ได้เสียงตอบรับที่ดี จึงตัดสินใจเปิดขายซะเลย ส่วนเหตุผลที่ใครๆ ก็ตกหลุมรักเผือกหิมะเจ๊นีมานานกว่า 10 ปีก็เพราะรสชาติและความกรอบนอกนุ่มในของเผือกที่หั่นเป็นชิ้นโตเต็มคำ สีก็สวยน่ากิน ยิ่งถ้าได้มายืนหน้าร้าน ได้ดูการทอดเผือกกันจะๆ แบบหนูหิ่นตอนนี้ ยิ่งจะได้เห็นถึงความใส่ใจ ทุกออเดอร์จะหั่นสดๆ จากเผือกหัวใหญ่ ทอดในน้ำมัน 1 รอบจนสุกกรอบ ยกขึ้นพักให้เริ่มเย็น จากนั้นจะเริ่มกระบวนการเคลือบน้ำตาล ปรุงรส เกิดเป็นชื่อเรียกว่า “เผือกหิมะ” นั่นเองค่า

จากการทำเผือกหิมะแจกจ่ายเพื่อนฝูง จนใครต่อใครต่างติดใจในรสชาติ สุดท้ายก็ต้องเปิดเป็นร้านเพื่อกระจายความอร่อยจนถึงปัจจุบัน

เผือกหิมะทุกกล่องที่วางขายหน้าร้านจะเป็นเผือกกรอบๆ อุ่นๆ ที่เพิ่งทอดใหม่เสมอ เพราะไม่ทันที่เผือกจะเย็นก็มีลูกค้ามาซื้อไปซะแล้ว ซึ่งทางร้านก็แนะนำมาว่า ถ้าใครอยากให้กรอบนานหน่อย ให้เปิดกล่องผึ่งให้โดนลม เผือกจะกรอบได้นาน 2-3 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ แต่ครั้งล่าสุดที่คุณทองซื้อมาฝากคุณมิลค์ที่บ้าน ขนาดเขานั่งคุยกันอยู่ตั้งนานหนูหิ่นแอบชิมเผือกหิมะก็ยังอร่อยอยู่เลยค่า เริ่ดแบบ 10 เต็ม 10 ไม่หักเลยสักแต้มเดียว

วางพักไว้ซะหน่อย ใครหิวก็อดใจรออีกแป๊บนึงนะคะ ?

จากการทำเผือกหิมะแจกจ่ายเพื่อนฝูง จนใครต่อใครต่างติดใจในรสชาติ สุดท้ายได้เปิดเป็นร้าน

นอกจากเผือกหิมะแล้ว เจ๊นีเขายังมีเผือกกรอบ ครองแครง ไว้บริการด้วยนะคะ หนูหิ่นไม่เคยกินเพราะกินไม่เคยทันคุณส้มโอสักที แต่เดาว่าน่าจะอร่อยไม่แพ้กันค่า